
กรรม นิสา เด็กหญิงวัย 5 ขวบ ชอบเล่นซนในสวนหลังบ้านที่มีคลองเล็ก ๆ ไหลผ่าน ด้านหลังบ้านนั้นจะมีกระถางบัวอยู่สองสามบ่อ ในนั้นจะมีปลาหางนกยูงอยู่จำนวนหนึ่ง นิสาเที่ยวเล่นทุก ๆ เย็นหลังเลิกเรียนและสิ่งที่นิสามักทำอยู่เป็นประจำก็คือ ชอบเอามือไปต้อนปลาหางนกยูงเล่น บางครั้งก็เอาสองมือตักปลาขึ้นมาดู
ซึ่งการกระทำนั้นทำให้มีปลาต้องตายจากสองมือของนิสาแทบทุกวัน ในใจของเด็กน้อยไม่ได้คืออะไรพอตักปลาขึ้นมาดูมันดิ้นทุรนทุราย เด็กน้อยกลับเห็นว่าเป็นเรื่องสนุกหางปลาสีสวยหลากหลายสีพลิ้วไหวบนฝ่ามือที่ไม่ได้รู้สึกถึงความทุรนทุรายแม้แต่น้อย นิสาคิดแค่ว่าปลาในบ่อบัวมีตั้งเยอะวันนี้สีฟ้าตายไปก็ยังมีสีแดง
สีเขียวให้เธอได้จับเล่น พอปลาหางนกยูงตัวแล้วตัวเล่าขาดอากาศหายใจ นิสาก็เอาทิ้งลงไปบนดินที่พื้นบ้าง บางครั้งก็ทิ้งลงไปในลำคลองเล็กหลังบ้าน นิสาใช้ชีวิตแบบนี้มานาน จริง ๆ แล้วนิสาเป็นเด็กร่าเริงมีเพื่อนเยอะแต่พอกลับบ้านก็จะเหงาเพราะพ่อและแม่เอาแต่ทำงานไม่มีเวลาใส่ใจมากนัก เรียกง่ายง่ายว่ากลับมาบ้านตอนเย็น
ก็เหมือนต้องอยู่คนเดียว แม่จะทำกับข้าวไว้ให้และก็ออกไปขายของต่อไม่ได้มีเวลาพูดคุยอะไรกับนิสามาก นัก กว่าจะกลับเข้าบ้านมาก็ดึก พ่อก็ทำงานกลับบ้านดึก กว่าทั้งพ่อและแม่ของนิสาจะกลับมาที่บ้านนั้น นิสาก็เข้านอนแล้ว วันหยุดเสาร์และอาทิตย์ที่ไม่ได้ไปโรงเรียน แม่ของนิสาก็ต้องขายของ พ่อของนิสาบางครั้งก็ต้องเดินทาง
ไปทำงานที่ต่างจังหวัด นิสาจึงใช้ชีวิตอยู่กับการฆ่าปลาโดยที่ไม่ได้รู้สึกผิดอะไร นิสาคิดแค่ว่าปลาเยอะแยะเอามาเล่นสนุก ๆ ก็ไม่เป็นไร กว่า 4-5 ปีที่ที่นิสาทำแบบนั้นกับปลาหางนกยูง จนตอนนี้นิสาอายุได้ 10 ปี นิสาเริ่มทีอาการหายใจไม่ค่อยออก บางครั้งก็หายใจไม่สุดเหมือนว่าอากาศเข้าปอดได้ไม่เต็มที่ นิสาเคยดิ้นเฮือกเพื่อให้หายใจ
ได้ทั่วปอดอยู่บ่อยครั้ง จนแม่ของนิสาเริ่มสังเกตุว่าลูกมีอาการแปลก ๆ หายใจยากในตอนนอน แต่ก็คือว่าอาจจะเป็นหวัดหายใจไม่คล่อง ตัวนิสาเองก็ไม่ได้เล่าให้แม่ฟังเพราะคิดว่าตัวเองคงแค่ไม่สบายแต่ในใจก็เริ่มมีความสงสัยว่ามีอะไรเกิดขึ้นกับตัวเองหรือไม่พอนิสาอายุได้ 10 ปี พฤติกรรมการเอามือตักปลาหางนกยูงก็หยุดไปเพราะลุง
ข้างบ้านเจ้าบ่อบัวย้ายบ้านออกไป และเอาบ่อบัวทั้งหมดไปด้วย ทำให้นิสาไม่มีปลาหางนกยูงได้เล่นสนุกอีก นิสาแค่นึกเสียดายว่าหลังจากนี้จะเล่นอะไรแก่เหงาดี บังเอิญพ่อของนิสาเอาสุนัขที่หลงทางเจอกับพ่อของนิสาระหว่างที่พ่อไปทำงานที่ต่างจังหวัดกลับมาบ้าน เป็นสุนัขพันธุ์ไทยสีด่างน้ำตาลกับขาวพ่อเลยตั้งชื่อว่า
ด่างนิสาไม่ค่อยชอบเจ้าด่างนักเพราะชอบนอนขวางทางตรงขั้นบรรไดเวลาจะเดินขึ้น แต่ละทีก็ลำบาก บางครั้งไล่ให้ลงไปเจ้าด่างก็ไม่กระดิก อายุของเจ้าด่างค่อนข้างมากแล้วเลยทำให้ไม่ค่อยจะเคลื่อนไหว นิสาเริ่มรำคาญเจ้าด่างเวลาที่บอกให้ลงไปจากบรรไดหรือหลบให้เดินแล้วเจ้าด่างเอาแต่นอนนิ่ง ทำให้นิสาเตะเจ้าด่าง
ตกลงมาจากบรรไดหลายครั้งเวลาเรียกให้ขยับแล้วเจ้าด่างเอาแต่นอนนิ่ง ในใจนิสาไม่เคยรู้สึกสงสารหรือเข้าใจเลยว่าเพราะเจ้าด่างอายุเยอะแล้วทำให้ไม่ค่อยเคลื่อนไหว อาการของนิสาเรื่องหายใจไม่เต็มปอด เริ่มรุนแรงขึ้นแต่แม่และพ่อของนิสาก็เอาแต่ทำงานไม่ได้มีเวลามาใส่ใจลูกมากนักบวกกับนิสาเริ่มโตขึ้นก็สนใจแต่เพื่อน
วันหยุดก็ออกไปเที่ยวตามห้างสรรพสินค้ากับเพื่อนไม่ได้สนใจที่บ้านมากนักแต่พฤติกรรมที่นิสาชอบเตะเจ้าด่างก็ไม่ได้หยุดไปจนวันหนึ่งเจ้าด่างนอนอยู่บนบรรไดขั้นที่สูงที่สุดนิสาไม่ได้เรียกให้เจ้าด่างหลบแต่พอนิสาเดินมาถึงบรรไดก็ถีบเจ้าด่างตกลงมาจน ขาหลังเจ็บต้องเดินกะเผลก แต่นิสาก็ไม่ได้สนใจเจ้าด่างแม้แต่น้อยนิสา
มีอาการหายใจติดขัดรุนแรงขึ้นจนทนไม่ไหวไปบอกกับแม่ว่าไม่รู้เป็นอะไรหายใจแทบไม่ได้เลย ต้องหายใจแรงเป็นเฮือก ๆ เหมือนคนต้องดำน้ำที่หายใจเฮือกยาว ๆ พออากาศหมดก็ขึ้นมาหายใจใหม่ ถ้าลองคิดให้ลึกลงไป การหายใจของนิสาคล้ายกับปลา หรือจะเป็นสาเหตุจากที่นิสาเคยพรากชีวิตปลาหางนกยูงแกล้งให้ทรมาน
ขาดอากาศหายใจไปนับไม่ถ้วน หลังจากนิสาไปบอกกับแม่ให้พาไปหาหมอ หมอก็ไม่เจอสาเหตุที่ทำให้นิสาเป็นแบบนี้เพราะ กรรมตามสนอง ผลตรวจที่ออกมาปอดและระบบทางเดินหายใจของนิสาก็ปกติ สร้างความแปลกประหลาดใจให้กับหมอที่ตรวจนิสาเป็นอย่างมาก หมอตรวจทุกวิธีไม่ว่าจะฟังการหายใจและใช้วิธีสแกรนปอดแต่ก็ไม่พบสิ่งผิดปกติ
แต่นิสาก็ยืนยันว่าหายใจยากขึ้นเรื่อย ๆ และต้องหายใจเป็นเฮือกใหญ่ ๆ ถึงจะได้ ในส่วนของพฤติกรรมที่นิสาทำกับเจ้าด่างก็ไม่เคยหยุด ตั้งแต่วันที่เจ้าด่างตกลงมาจากบรรไดขั้นสูงสุดขาของเจ้าด่างก็ไม่เคยเดินได้ปกติอีกเลย แต่นิสาก็ยังไม่เลิกเตะเจ้าด่างให้ตกลงมาจากบรรได ถึงแม้ว่าเจ้าด่างจะเดินไม่ค่อยไหวและขึ้นไปนอนบนบรรได
ได้แค่ขึ้นเตี้ย ๆ ก็ตามนิสาก็ยังเตะเจ้าด่างลงมากลายเป็นการกระทำที่เคยชินและไม่รู้สึดสงสารเจ้าด่างเลย ทุกครั้งที่นิสาเตะเจ้าด่างตกลงมา เจ้าด่างจะหันมามองด้วยสายตาที่ไม่เข้าใจ ถ้าเจ้าด่างพูดได้คงอยากจะถามว่ามาเตะเราทำไม แต่เมื่อพูดไม่ได้ก็ได้แต่มองด้วยสายตาที่ไม่เข้าใจ จนวันนึงก็ถึงเวลาของเจ้าด่างที่จากไปเพราะ
ความแก่และจากไปพร้อมความไม่เข้าใจว่าทำไมนิสาต้องทำกับมันแบบนั้น หลังจากเจ้าด่างจากไปไม่กี่เดือน นิสา ต้องไปเข้าค่ายลูกเสือและไปปีนขึ้นบรรไดหอคอย เมื่อนิสาปีนขึ้นไปขั้นบนสุดก็พลาดตกลงมาเพราะลื่น ภาพที่นิสาเห็นคือเจ้าด่างมองมาที่นิสาด้วยความไม่เข้าใจแววตาเต็มไปด้วยคำถามนิสาเพิ่งจะรู้สึกว่าสิ่งที่ทำกับ
เจ้าด่างกำลังเกิดขึ้นกับตัวเอง นิสามารู้สึกตัวอีกทีที่โรงพยาบาล ขาขวาของนิสาไร้ความรู้สึกมีแม่นั่งร้องไห้หลังไปคุยกับหมอที่แจ้งว่า ขาของนิสาไม่สามารถกลับเข้ารูปเดิมได้หลังจากนี้นิสาจะเดินไม่ปกติอีกต่อไปกลายเป็นคนพิการ หลังจากหตุการณ์นั้นนิสาเริ่มสวดมนต์ไหว้พระและระลึกถึงทุกชีวิตที่เคยรังแกขอให้ทุกชีวิตของปลาหางนกยูงและเจ้าด่างให้อภัยเธอ นิสาคิดได้ว่าอาการทุกอย่างความเจ็บปวดที่เกิดขึ้นน่าจะมาจาก “กรรม” ที่นิสาเคยทำ