
ตา การดูแลตาแห้งผู้สูงอายุ
การดูแลตาแห้งในผู้สูงอายุเป็นสิ่งสำคัญมาก ผู้สูงอายุบางคนไม่กล้ารับประทานเนื้อสัตว์ไข่นมและอาหารอื่นๆ เพราะกลัวโรคบางชนิด เนื่องจากอาหารเหล่านี้มีไขมัน แต่วิตามินเอต้องละลายในไขมันจึงจะดูดซึมได้ และวิตามินเอเป็นสารสำคัญในการหล่อลื่นดวง ตา ดังนั้นการ ดูแล ดวงตาที่แห้ง จึงสามารถรับประทานอาหารเหล่านี้ เพื่อหลีกเลี่ยงการขาดวิตามินเอ
เมื่ออากาศหนาวหรือมีลมแรง ผู้สูงอายุไม่ควรออกไปข้างนอก หากต้องออกไปข้างนอกควรสวมแว่นตาหรือแว่นตาป้องกัน เพื่อป้องกันไม่ให้อาการกำเริบ และส่งผลกระทบต่อผู้ป่วยมากขึ้น
วิธีการทั่วไปในการดูแลอาการตาแห้งในผู้สูงอายุ รวมถึงการดูแลเรื่องอาหารด้วย ผู้สูงอายุไม่ควรรับประทานอาหารเบาๆ สามารถรับประทานเนื้อสัตว์ไข่นมผักผลไม้ได้บ้าง ตราบใดที่ควบคุมปริมาณอาหารเหล่านี้ได้ดี ก็จะไม่ทำให้ความดันโลหิตสูง เส้นเลือดอุดตัน โรคหลอดเลือดหัวใจ ฯลฯ ผักและผลไม้มีวิตามินหลายชนิด ซึ่งสามารถช่วยฟื้นฟูอาการตาแห้งได้
หากคุณเป็นโรคระบบทางเดินอาหาร และโรคตับคุณต้องดำเนินการรักษาอย่างจริงจังและถี่ถ้วนทันเวลา เพื่อให้แน่ใจว่าร่างกายสามารถดูดซึมวิตามินเอได้ดี การดูแลดวงตาที่แห้งในผู้สูงอายุ ควรพัฒนาพฤติกรรมการใช้ชีวิตที่ดี เข้านอนเร็วและตื่นเช้า อย่านอนดึก นอนหลับให้เพียงพอ และป้องกันไม่ให้ดวงตาอ่อนล้ามากเกินไป
กินอะไรดีสำหรับผู้สูงอายุที่ตาแห้ง
1.โจ๊กลิลลี่และอินทผาลัมสีแดง ส่วนประกอบ ดอกลิลลี่ 10กรัม มันแกว 15กรัม เมล็ดโค๊ก 20กรัม อินทผลัม 10วันเอาเม็ดออก ล้างวัสดุดังกล่าวข้างต้นและปรุงโจ๊กด้วยกัน สรรพคุณของลิลลี่ช่วยบำรุงหยินและลดไฟ มันแกวบำรุงไตและปอด เมล็ดโค๊กช่วยบำรุงม้ามขับความร้อนและระบายหนอง
ส่วนอินทผลัมสีแดงเรียกว่าวิตามินเม็ดจากธรรมชาติ ไม่เพียงแต่อุดมด้วยวิตามินซีเท่านั้น แต่ยังอุดมไปด้วยวิตามินเอ โจ๊กนี้ไม่เพียงแต่มีประสิทธิภาพในการป้องกัน และรักษาตาแห้งเท่านั้น แต่ยังใช้เพื่อปรับปรุงสายตาอีกด้วย
2.ชาเก๊กฮวย สรรพคุณของเก๊กฮวยมีรสหวานตามธรรมชาติและมีรสเย็น มีฤทธิ์ในการไล่ลมและความร้อน ตับสงบและสายตาดีขึ้น การวิเคราะห์ทางเภสัชวิทยาสมัยใหม่ แสดงให้เห็นว่าเก๊กฮวยอุดมไปด้วยวิตามินเอ ซึ่งเป็นสารสำคัญในการรักษาสุขภาพตา ชาเก๊กฮวยสามารถทำให้คนเราจิตใจแจ่มใสและตาสว่างได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งอาการตาแห้ง ที่เกิดจากการใช้สายตามากเกินไป
3.เมล็ดวอลนัท การเคี้ยวอาหารสองอย่างทุกคืนสามารถบรรเทาอาการได้ สรรพคุณเมล็ดวอลนัทอุดมไปด้วยน้ำมัน ไขมัน วิตามินเอ วิตามินบี1 วิตามินบี2 วิตามินซี วิตามินอีและสารอาหารอื่นๆ และมีผลในการบำรุงไต เสริมสร้างแก่นแท้บำรุงตับ และสายตาดีขึ้น
4.เก๋ากี่ วันละ15กรัม ล้างและนำไปเคี้ยวหรือต้มกับน้ำ สรรพคุณเก๋ากี่ช่วยบำรุงหยินและเพิ่มสายตาให้ดีขึ้น สามารถส่งเสริมการซ่อมแซมกระจกตาที่เป็นโรค และปรับปรุงความต้านทานโรคของร่างกาย
การป้องกันตาแห้งในผู้สูงอายุ
1.เมื่ออากาศหนาวหรือมีลมแรง ผู้สูงอายุไม่ควรออกไปข้างนอก หากคุณต้องออกไปข้างนอกให้สวมแว่นตาหรือแว่นตาป้องกัน
2.ผู้สูงอายุไม่ควรรับประทาน อาหารเบาเกินไป ควรรับประทานเนื้อสัตว์ ไข่ นม ผักผลไม้ ฯลฯ ในชีวิตประจำวันตราบเท่าที่เข้าใจ ในปริมาณที่เหมาะสม จะไม่ทำให้เกิดความดันโลหิตสูง เส้นเลือดอุดตัน โรคหลอดเลือดหัวใจ ฯลฯ ผักและผลไม้มีวิตามินหลายชนิด ซึ่งสามารถป้องกันโรคตาแห้งได้
3.ผู้สูงอายุที่เป็นโรคระบบทางเดินอาหาร และตับควรได้รับการตรวจและรักษาให้ทันเวลา เพื่อให้ร่างกายดูดซึมวิตามินเอได้ดี
4.หลีกเลี่ยงไม่ให้ลูกตาสัมผัสกับอากาศเป็นเวลานาน เมื่อดูทีวีคอมพิวเตอร์หรือสิ่งอื่นๆ อย่าจ้องสิ่งเหล่านั้นเป็นเวลานาน และกระพริบตา เพื่อให้น้ำตาบนเปลือกตาหล่อลื่นลูกตา
5.เพื่อเปลี่ยนนิสัย การใช้สายตาอย่างต่อเนื่องเป็นเวลานาน อ่านหนังสือ อ่านหนังสือพิมพ์ ดูทีวี ดูคอมพิวเตอร์หรือทำงาน ที่พิถีพิถันพักสมองประมาณ 10 นาทีทุกๆ ชั่วโมง หรือหลับตา และพักใจของคุณหรือมองไปไกลๆ
6.ใช้ชีวิตอย่างสม่ำเสมอ เข้านอนเร็วและตื่นเช้า อย่านอนดึก นอนหลัให้เพียงพอ และป้องกันอาการตาล้ามากเกินไป
7.ผงอายแชโดว์มาสคาร่า ฯลฯ ที่ใช้ในการแต่งหน้า ไม่ควรเข้าตา เพื่อหลีกเลี่ยงการระคายเคืองต่อดวงตา
8.สายตายาว สายตาสั้น สายตาเอียง ฯลฯ สวมแว่นตาที่มีกำลังเหมาะสม ความคลาดเคลื่อนของดวงตา แต่ไม่ควรใส่คอนแทกต์เลนส์ หากต้องใส่คอนแทกต์เลนส์เป็นเวลานานเกินไป
9.การไหลเวียนของเลือด ในดวงตาของผู้สูงอายุไม่ดี จึงควรออกกำลังกายตาบ่อยๆ หรือนวดตาเบาๆ เพื่อกระตุ้นการไหลเวียน ของเลือดในดวงตา และป้องกันไม่ให้ต่อมน้ำตาหดตัวและอายุมากขึ้น
10.หากดวงตาแห้งและไม่สบาย หากคุณมองเห็นสิ่งต่างๆ ไม่ชัด คุณควรไปโรงพยาบาล เพื่อรับการตรวจและรักษา ควรทานยาวิตามินเอ ภายใต้คำแนะนำของแพทย์ มีผลดีอย่าใช้ยาหยอดตาตามอำเภอใจ เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้อาการรุนแรงขึ้น
บทความอื่นๆที่น่าสนใจ พยากรณ์อากาศ และความกดอากาศ