โรงเรียนบ้านหนองนกกะเรียน สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาราชบุรี เขต 1 จังหวัดราชบุรี
วันที่ 5 ธันวาคม 2023 1:11 PM
b-school04
logo-cโรงเรียนบ้านหนองนกกะเรียน
หน้าหลัก » นานาสาระ » นาคี นิทานเรื่องสั้นจากเรื่อง ภูนางเคียง

นาคี นิทานเรื่องสั้นจากเรื่อง ภูนางเคียง

อัพเดทวันที่ 25 มกราคม 2021 เข้าดู 281 ครั้ง

นาคี ภูนางเคียง

นาคี เมื่อนางนาคีได้รูว่าคู่ครองของตนเองได้กลับชาติมาเกิดใหม่แล้วแต่ยังไม่กล้าปรากฏตัวให้เห็นนางคอยเฝ้าคลุมครองเขาอยู่ห่างๆ ไม่ให้เขาได้รับอันตรายใดๆ แล้วหวังว่าจะได้ชื่นชมเขาอยู่อย่างนี้ต่อไปเรื่อยๆ แม้ไม่ได้ครองคู่นางก็รู้สึกเป็นสุขใจแล้วกาลเวลาผ่านไปด้วยดีจนเด็กน้อยได้เติบโตจนกลายเป็นชายหนุ่มที่มีรูปร่างหน้าตางดงาม

ไม่ว่าใครที่ได้เห็นก็ต้องเป็นที่ชื่นชมโดยเฉพาะหญิงสาวที่ต่างมาทอดไมตรีให้เขาอยู่บ่อยๆ แต่ว่าชายหนุ่มคนนี้ไม่มีท่าทีว่าจะชอบหญิงสาวคนไหนเลยจนกระทั่งพ่อกับแม่ของเขาจนต้องเรียกลูกชายเขามาคุย “ลูกเอ่ยตอนนี้ลูกก็โตเป็นหนุ่มแล้ว มีผู้หญิงมาชอบพอเจ้าก็หลายคน เจ้าไม่คิดที่จะมองผู้หญิงคนไหนมักคนเลยรึ”

“ไม่เลยลูกเลยไม่คิดมีจิตรักผู้หญิงคนไหนเลยรักใครเลยจ้ะแม่” ชายหนุ่มตอบมารดาออกไปอย่างนั้น “นี่ลูกสาวผู้ใหญ่บ้านก็ชอบเจ้ามานานมาก หากลูกได้แต่งงานอยู่กับนางลูกของพ่อก็จะมีแต่คนนับหน้าถือตานะ ถือว่าเขาให้เกลียดเราทั้งๆ ที่บ้านของเรานั้นยากจนไม่มีที่ดินหรือทรัพย์สมบัติใดๆ” ผู้เป็นพ่อได้เอ่ยกับชายหนุ่มเขา

ส่งยิ้มเย็นให้กับพ่อและแม่ก่อนจะบอกว่า “ลูกไม่คิดจะชอบผู้หญิงคนไหนเลยอย่าว่าแต่ลูกผู้ใหญ่บ้านเลยพ่อต่อให้เป็นลูกคนใหญ่คนโตกว่านั้นลูกก็ไม่ชอบ” เมื่อเห็นว่าลูกไม่มีจิตใจเอนเอียงไปทางไหนเลยแม้จะเพียรพยายามถามอยู่บ่อยครั้งพ่อกับแม่ก็อ่อนใจจนเลิกถามไปเองส่วนนางนาคีที่แอบติดตามและดูแลเขามาตลอด

หลายปีก็รู้สึกดีใจที่เขาไม่คิดชอบผู้หญิงคนไหนนางแอบหวังว่าวันหนึ่งจะแสดงตัวให้เขาเห็นแล้วจะทำให้เขาระลึกถึงชาติก่อนให้ได้เพื่อที่จะขอให้เขากลับมาครองรักกับนางอีกแม้จะเป็นช่วงเวลาสั้นตามอายุไขของมนุษย์ก็ตามที ทว่าความฝันของนางนาคีก็เริ่มสั่นคอนเมื่อวันหนึ่งชายหนุ่มได้พบกับพระธุดงค์ และได้เข้าไปขอฟังธรรม

แม้นางจะแอบมองดูอยู่ห่างๆ จิตใจของนางก็เริ่มหวั่นกลัวว่าจะเสียเขาไปอีกครั้ง เพราะนางเห็นว่าหน้าของเขานั้นเปี่ยมความสุขอย่างเหลือประมาณในยามที่ได้ฟังธรรมจากพระภิกษุรูปนั้น ยิ่งเวลาในแต่ละวันผ่านไปนางเห็นว่าภาพชายหนุ่มนั้นไปเฝ้าฟังธรรม และปฏิบัติสมาธิ ก็ยิ่งร้อนรนแต่ไม่กล้าไปแสดงตัวให้เขารู้กระทั่งคืนหนึ่ง

หลังจากที่เขากลับบ้านไปแล้วพระภิกษุรูปนั้นก็ได้เอ่ยเรียกนาง “เข้ามาเถอะโยมจะมัวแอบไปอยู่ทำไม” ภิกษุชราเอ่ยกับนางนาคี “ท่านรู้ด้วยหรอเจ้าคะว่าฉันแอบอยู่ตรงนี้” นางนาคีเอ่ยถามในขณะที่เดินเข้ามาหาแล้วยาอกายลงต่อหน้าภิกษุด้วยรูปกายเช่นนางมนุษย์คนหนึ่ง “รู้สิและรู้ด้วยว่าเจ้ากับชายหนุ่มคนนั้นมีอดีตต่อกันอย่างไร”

“ถ้าท่านรู้แล้วก็โปรดเลิกสอนเขาเรืาองธรรมเสียเถิด ฉันรอเขามานานเหลือเกินแล้ว” นางเอ่ยอ้อนวอนร้องขอด้วยน้ำเสียงที่น่าเวทนา “อาตมาคงไปห้ามเขาไม่ได้หรอก เพราะชาตินี้เขาเกิดมาด้วยแรงจิตอธิษฐานของเขา อาตมาคงได้แต่บอกโยมว่าบ่อยเขาไปตามทางของเขาเถิด เพราะโยมก็รู้อยู่แล้วว่าขัดขวางเท่าใดโยมก็ไม่มีทางสำเร็จได้”

นาคี

คำเตือนของพระภิกษุรูปนั้นทำให้ภาพอดีตอันยาวนานย้อนกลับมาในมโนสำนึกของนางนาคีอีกครั้ง ภาพการสิ้นของพญานาคผู้เป็นคู่ชีวิตกลับมาตอกย้ำให้นางเสียใจยิ่งขึ้นไปอีกนางนาคีก้มลงกราบพระภิกษุรูปนั้นทั้งน้ำตาก่อนจะเอ่ยว่า “ฉันทำบาปมากนักเหลือเกินเจ้าคะ ทำอย่างไรดีถึงจะผ่อนบาปนั้นให้กลายเป็นเบาได้” 

“บาปกับบุญนั้นแยกส่วนกันชัดเจนไม่อะไรมาหักล้างกันได้ โยมก็สามารสั่งสมบุญของตัวเองได้เช่นกัน ที่ผ่านมาโยมก็ได้แต่ขัดขวางไม่ให้เขาปฏิบัติธรรม ถ้าเป็นอย่างนั้นนับจากนี้ไป โยมก็จงสนับสนุนเขาเถิด คอยสนับสนุนเขาแล้วคนอื่นที่ตั้งใจปฏิบัติธรรม และโยมก็จะได้รับผลแห่งกรรมดีนั้นด้วย” “ฉันกราบเจ้าคะ ที่พระคุณเจ้าช่วยชี้แนะให้ฉัน”

นางนาคียิ้มทั้งน้ำตาด้วยความปราบปลื้มที่พระภิกษุได้แนะแนวทางให้กับนางเมื่อได้สนทนาธรรมกับพระภิกษุแล้วนางนาคีก็ตั้งใจว่านับจากนี้หากชายหนุ่มซึ่งเคยเป็นอดีตคนรักของนาง หากจะทำสิ่งใดนางจะสนับสนุนเขาทุกทาง และเมื่อถึงวัยที่เขาจะอุปสมบทได้นางก็จะร่วมอนุโมทนาบุญกับเขาด้วยนางนาคีเฝ้ามองพิธีอุปสมบทอันเรียบง่าย

ของเขาด้วยความปราบปลื้มยินดีและคอยเฝ้ามองเขาศึกษาพระธรรมคำสอนของพระพุทธองค์จนกระทั่งเขาเริ่มออกธุดงค์นางก็เฝ้าติดตามอยู่ห่างคอยติดตามเฝ้าระวังอันตรายให้เขาอยู่ห่างๆ เมื่อกาบเวลาผ่านไป จากพระหนุ่มรูปงามก็เริ่มเขาสู่วัยกลางคนและพระหนุ่มรูปนี้ก็ได้ศึกษาพระธรรมคำสอนจนเจนจบครบท้วนปฏิบัติวิปัสนาจน

สามารถสื่อสารกับนางนาคีได้นั้นเป็นเวลาที่พระได้เดินทางมาธุดงค์ยังภูเขาลูกหนึ่งริมแม่น้ำสายใหญ่เป็นแม่น้ำที่ไหลผ่านหลายประเทศพระภิกษุรูปนี้ได้ตั้งจิตมั่นว่าจะสร้างสถานปฏิบัติธรรมขึ้น ณ เขาแห่งนี้และตั้งใจจะทำที่นี่ให้กลายเป็นวัดเป็นสถานที่ให้พระ และฆาราวาสมาศึกษาพระธรรมกันสืบไปค่ำคืนหนึ่งหลังออกจากสมาธิพระรูป

นี้ก็ได้เรียกนางนาคีให้มาสนทนากัน อาตมาขอบใจโยมมากที่ได้เฝ้าปัดเป่าภัยอันตรายให้ตลอด “ท่านรู้หรอเจ้าคะ” นางนาคีถามด้วยความปลื้มปิติ “รู้สิถึงได้เรียกมาขอบใจอย่างไรเล่านับจากนนี้เราคงจะไม่ได้ไปไหนอีกแล้วจะตั้งมั่นอยู่บนยอดดอยภูแห่งนี้ เพื่อสร้างที่นี่ให้เป็นที่เผยแพร่คำสอนของพระพุทธองค์สืบไปในอนาคต

ส่วนโยมเองก็ไม่ต้องมาติดตามอาตมาอีกแล้ว” เมื่อได้ฟังอย่างนั้นนางนาคีก็รู้สึกเสียใจ เพราะหลายปีที่ผ่านมานาวไม่เคยห่างอดีตคนรักเลยแม้แต่น้อย “โยมคอยตามป้องกันภัยให้อาตมามาหลายปีแล้ว อาตมาขอแบ่งบุญกุศลที่อาตมามีนับแต่อดีตจนถึงปัจจุบันให้กับโยมด้วย ขอให้โยมได้ไปตามทางของโยมเถิดจากนี้ไม่ต้องมีห่วงอะไรแล้ว”

“อย่าไล่ฉันไปเลยคะท่าน ขอให้ฉันได้อยู่ดูแลท่านต่อไปด้วยเถอะนะเจ้าคะ” นางนาคีเอ่ยร้องขอ “หากนั้นเป็นปรารถนาของโยมอาตมาคงห้ามไม่ได้ขอเถิดว่าให้ที่นี่เป็นที่พำนักของผู้ทรงศีล แล้วโยมก็เป็นหญิงโยมจะมาอยู่ใกล้ชิดกับอาตมาคงจะไม่เหมาะนักแม้โยมจะไม่ได้เป็นมนุษย์ก็ตามแต่หากใครมาเห็นโยมในร่างแปลงเข้า

เขาจะเอาไปพูดให้เสียหายได้” แม้เหตุผลของพระภิกษุจะทำให้นางเจ็บปวดแต่นางก็เข้าใจดีถึงกะนั้นนางก็บังอยากจะเห็นพระภิกษุอยู่ในสายตาจึงได้เอ่ยร้องขอ “ถ้าอย่างนั้นขอให้ฉันได้มองพระคุณเจ้าอยู่ไกลๆ ได้หรือไม่ฉันจะไปอยู่อาศัยที่เขาลูกนู้น และคอยมองคอยฟังธรรมะของพระคุณเจ้าจากพระรูปอื่นจากที่นั้น อีกอย่างฉัน

จะได้คอยระแวดระวังภัยให้กับพระธุดงค์ที่อยู่ในป่าแถบนู้นด้วย” “ถ้าอย่างนั้นก็ตามใจโยมเถอะนะ อาตมาขออนุโมทนากับความตั้งใจดีของโยมด้วย” “กราบขอบพระคุณเจ้าคะ” นางนาคีก้มลงกราบทั้งน้ำตาก่อนจะแปลงกายกลับมาเป็นร่างนาคีของตนแล้วเลื่อยหายไปยังภูเขาที่อยู่ตรงข้ามกัน และคอยทำหน้าที่รัวังภัยให้กับพระภิกษุ

รวมถึงชาวบ้านทุกคนที่เดินทางมาฟังธรรมจากพระภิกษุมาโดยตลอดมีชาวบ้าน และพระบางรูปที่เคยเห็นหญิงหน้าตางดงามมาคอยบอกทางหรืออำนวยความสะดวกให้ยามที่พวกเขาจะเดินทางมายังพูเขาที่ตั้งอยู่ริมน้ำแต่นางก็หายตัวไปอย่างรวดเร็วจนเกิดคำล่ำลือกันว่านางคือสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่คอยมาปกป้องดูแลทุกคน และคอยมองดูทุกคนจากถูเขาลูกที่อยู่ในป่าชาวบ้านพากันเรียกภูเขาลูกนั้นว่าภูนางเมียงที่มาจากคำว่าเมียงมอง และต่อมาก็เพี้ยงเป็นว่าภูนางเคียงแต่ไม่ว่าตะเพียรไปเข้นไรทุกคนก็รู้ว่านางคือผู้ที่มีเจตนาดีกับทุกคนที่หวังจะมาปฏิบัติธรรมตามรอยพระพุทธองค์

 

 

อ่านบทความน่าสนใจเพิ่มได้ที่ > ภาษาอังกฤษ

นานาสาระ ล่าสุด